ผู้ช่วยแม่บ้านที่ควรรู้จัก : เบกกิ้งโซดา

          ผู้ช่วยแม่บ้านที่ควรรู้จัก : โซเดียมไบคาร์บอเนต ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้คุณแม่บ้านต้องสับสนกับชื่อสาร       เรามาทำความรู้จักผู้ช่วยแม่บ้าน ที่มักทำให้คุณแม่บ้านสับสนกันก่อนดีกว่า                                                                 – โซเดียมไบคาร์บอเนต หรือ เบกกิ้งโซดา หรือโซดาทำขนม                                                                                       – ถ้าอยู่ในรูปเม็ดจะเรียกว่าโซดามิ้นท์ โซเดียมไบคาร์บอเนต ไม่ใช่ โซเดียมคาร์บอเนต                                               – โซเดียมไบคาร์บอเนต หรือ เบกกิ้งโซดา มีลักษณะเป็นผงหรือผลึกสีขาว ละลายน้ำได้ดี มีความเป็นด่าง              จะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน เมื่อผสมกับน้ำหรือถูกความร้อนจะเกิดฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเอามาทดแทนผงฟูในการทำขนมบางชนิดให้ฟูได้ ราคาไม่แพง ประมาณกิโลกรัมละ 60 บาท หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ต ร้านเบเกอรี่ หรือร้านค้าทั่วไป

          โซเดียมไบคาร์บอเนต มีข้อดีที่ปลอดภัย ไม่มีพิษ แต่มีข้อเสีย คือ ถ้าใช้มากเกินจำเป็น จะทำให้ขนมมีรสเฝื่อนได้ จึงนิยมใช้ทำขนมที่มีพวกโกโก้หรือกาแฟเป็นส่วนผสม เพราะ โกโก้และกาแฟต่างมีค่าเป็นด่างเหมือน      กับเบกกิ้งโซดา จึงทำให้เข้ากันได้ดี ส่วนที่คุณแม่บ้านอาจสับสน คือ ผงฟู หรือ Baking Powder เป็นสารเคมีแห้งที่ช่วยทำให้ขนมขึ้นฟูโดยจะมีโซเดียมไบคาร์บอเนตหรือเบกกิ้งโซดา เป็นส่วนประกอบ

          ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา นอกจากทำขนมได้แล้วยังมีส่วนที่ช่วยงานแม่บ้านได้อีกมากมาย เนื่องจากเป็นสารช่วยขัดถูชำระชะล้างทำความสะอาด ดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดูดความชื้น ฆ่าเชื้อโรค ปรับค่าความเป็นกรดด่าง  ไม่กัดกร่อนผิวภาชนะ สามารถนำมาใช้ในการทำความสะอาดบ้านเรือนได้อย่างปลอดพิษภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง   อีกทั้งยังเก็บรักษาง่าย และมีราคาไม่แพง

          การใช้งานเบกกิ้งโซดาในฐานะผู้ช่วยแม่บ้าน ทำได้มากมาย ดังนี้
– ใช้หมักเนื้อหมูให้นุ่ม โดยใส่เบกกิ้งโซดาเพียงเล็กน้อย
– ใส่ไข่เจียวช่วยให้ฟู ใช้ครึ่งช้อนชาต่อไข่ 3 ฟอง ไข่เจียวจะฟูน่ารับประทาน
– ทำขนมปังได้ ในกรณีที่ไม่มียีสต์ เพราะเมื่อผสมกับน้ำจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เช่นกัน                                      แต่การฟูของขนมจะหยาบกว่าการใช้ยีสต์ และข้อดีคือเก็บรักษาได้นานกว่ายีสต์                                                        – ผสมน้ำเปล่า กลั้วคอแก้อาการเจ็บคอที่เกิดจากความเป็นกรด
– รักษาแผลในช่องปาก โดยใช้ครึ่งช้อนชาผสมน้ำเปล่ากลั้วปากทุก 4 ชั่วโมง
– ช่วยทำให้เรอด้วยการผสมน้ำดื่มจะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เรอและแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
– ถ้าอยู่ในรูปของเม็ดจะเรียกว่าโซดามิ้นท์ มีสรรพคุณเป็นยาลดกรด ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย                                 ช่วยปรับปัสสาวะให้เป็นด่าง ควบคุมความเป็นกรดในเลือดของผู้ป่วยโรคไต
– ช่วยบรรเทาอาการลมพิษ โดยใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำ 2-3 หยดพอเป็นแป้งเปียก                                                           ทาบริเวณที่เป็นผื่นจะช่วยลดอาการระคายเคืองและอาการคัน
– บรรเทาอาการเจ็บปวดจากแมลงกัดต่อย ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำทาบริเวณที่ถูกกัด
– บรรเทาอาการผิวไหม้แดด โดยผสมลงในน้ำอุ่นที่จะอาบ จะช่วยบรรเทาความปวดแสบปวดร้อนได้
– รักษาอาการคันตามง่ามเท้าเพราะติดเชื้อราหรือที่เรียกว่าฮ่องกงฟุต โดยใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ                            ผสมน้ำให้พอเหนียว ทาที่เท้า จากนั้นให้ล้างเท้าและเช็ดให้แห้ง ปิดท้ายด้วยน้ำแป้งข้าวโพดมาทาบริเวณที่คัน          อีกครั้ง จะช่วยลดอาการแสบร้อนและอาการคันตามง่ามนิ้วเท้าได้
– ช่วยให้ผิวเนียนใส ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำ ข้าวโอ๊ต นมสดและน้ำผึ้ง นำมาขัดเบา ๆ เพื่อผิวที่สะอาดใสขึ้น      โดยผิวที่จะขัดจะต้องเปียกน้ำก่อน และต้องขัดเบา ๆ ในผิวส่วนที่บอบบาง
– ทำเป็นสครับขัดหน้าได้ดี ใช้เบกกิ้งโซดากับเกลืออย่างละครึ่งถ้วย น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ลูก                  ผสมกัน พอกหน้าในระหว่างอาบน้ำ
– ใช้ผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้สดใสมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำ 1 ส่วน มาผสมกัน                                      ใช้เช็ดถูบริเวณที่ต้องการแล้วล้างออก
– ใช้กำจัดสิวเสี้ยน ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำ ขัดเบา ๆ ที่จมูก ล้างออกด้วยน้ำสะอาด สิวเสี้ยนจะจางลง
– ทำยาระงับกลิ่นปาก ใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่น 1 ถ้วย ใช้บ้วนปาก จะช่วยได้มากโดยเฉพาะกลิ่น              กระเทียม – ช่วยทำให้ฟันขาว โดยใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาวครึ่งช้อนชา ขัดฟันเบา ๆ แล้วบ้วนน้ำ          เปล่าจนสะอาด จะช่วยขจัดคราบชากาแฟได้
– ใช้ทำสปาเท้า ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วย เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยและน้ำอุ่น ใส่ในกะละมังแช่เท้า      จะทำให้รู้สึกสบาย ฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า และความร้อนจะผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้ด้วย
– ช่วยทำให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้น ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาผสมลงในชามน้ำอุ่นแล้วแช่มือไว้ประมาณ 2-3 นาที                    ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้หนังหุ้มเล็บนุ่มขึ้นได้
– ใช้ทำความสะอาดเส้นผม ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาเท่ากับแชมพูสระผมตามที่คุณใช้ปกติ                          ช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผม จะได้ผลดีเป็นพิเศษกับผมเส้นเล็ก
– นาน ๆ ก็ลองเปลี่ยนมาสระผมด้วยเบกกิ้งโซดาเปล่า ๆ แทนแชมพู จะช่วยให้รังแคน้อยลงทันตาเห็น
– ใช้ดับไฟ เพราะเมื่อถูกความร้อนจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทำให้ไฟลดน้อยลงได้
– ใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัยเพราะไม่มีสารพิษ ด้วยการผสมเบกกิ้งโซดากับผสมน้ำ                                         ในอัตราส่วนที่พอเหมาะกับการใช้งาน นำมาใช้ชำระล้างได้เกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้               ร่างกาย ของใช้
– แช่ผักผลไม้ทิ้งไว้ 15 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง ช่วยลดสารพิษตกค้างในผักได้ถึง 90%
– ขจัดคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ
– ล้างจานก็ได้เพราะขจัดกลิ่นและคราบมันได้ดี
– เช็ดทำความสะอาดภายในเตาไมโครเวฟ
– ขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่อของอ่างล้างจาน โดยใส่เกลือไปในท่อ 3 ช้อนโต๊ะ ต้มเบกกิ้งโซดากับน้ำให้เดือด            แล้วเทลงไปในท่อ ไขมันที่อุดตันอยู่จะหลุดออกหมด
– ทำความสะอาดเขียง จะช่วยขจัดกลิ่นคาวบนเขียงได้
– ใช้ขจัดรอยไหม้ตามกระทะหรือหม้อ ด้วยการแช่ด้วยน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
– เช็ดใต้เตารีดหรือเครื่องครัวที่ทำจากสเตนเลสหรือโครเมี่ยมจะช่วยทำความสะอาดได้หมดจด
– ทำความสะอาดเครื่องปิ้งขนมปัง ด้วยการโรยบนผ้าเปียก เช็ดตรงตะแกรง
– ใช้ทำความสะอาดหน้าต่าง ฝาผนัง งานไม้หรืออุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ใช้ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้ก็ได้
– ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคราบสกปรก เช่น พื้นครัว พื้นห้องน้ำ เช็ดคราบสีเทียน ดินสอ ปากกา มาร์คเกอร์ คราบน้ำมันที่ติดบนผนัง บนเสื่อน้ำมัน พรม เครื่องสุขภัณฑ์
– ใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งกล่องใส่ลงในถังน้ำหลังชักโครกทิ้งไว้ 1 คืนแล้วกดชักโครกจะช่วยทำให้ถังและชักโครกสะอาดปราศจากกลิ่นได้
– ทำความสะอาดรองเท้าที่มีกลิ่นเหม็นจากการหมักหมมมานาน โดยนำเบกกิ้งโซดามาโรยในรองเท้า                            ใส่ถุงพลาสติกรัดให้แน่น นำไปแช่ในช่องแข็งตู้เย็นประมาณ 1-2 คืน แล้วค่อยนำออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง            จากนั้นนำไปสลัดเบกกิ้งโซดาออกให้หมด และสวมใส่ได้เลย
– แก้ปัญหากลิ่นในรถ กลิ่นบุหรี่ ดับกลิ่นท่อตัน
– ดับกลิ่นอับในตู้เย็น ตู้กับข้าว ตู้รองเท้า ห้องทาสีใหม่ ขจัดกลิ่นต่าง ๆ ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดามาเทใส่ถ้วย                  ทิ้งไว้ในจุดที่ต้องการขจัดกลิ่น เปลี่ยนทุก 3 เดือน เบกกิ้งโซดาจะช่วยดูดกลิ่นอับได้
– ขจัดกลิ่นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นหรือไม้กวาด ด้วยการทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน                                  แล้วจึงนำมาแช่ในน้ำ 1 ถัง ที่ละลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนชา แช่เสร็จแล้วตากให้แห้ง
– ใช้ดับกลิ่นมูลแมว โดยทุกครั้งที่ทำความสะอาดห้องน้ำแมวแล้ว ก็ให้ใช้เบกกิ้งโซดานิดหน่อยโรยลงบนทรายแมว
– ใช้ดับกลิ่นอับของเสื้อผ้า ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยหรือประมาณ 8 ช้อนโต๊ะผสมกับผงซักฟอกในปริมาณ          ที่จะใช้แทนที่จะใช้ผงฟอกขาว
– ใช้ป้องกันภาชนะหรือกระเป๋าเดินทางมีกลิ่นเหม็นอับชื้นจากเชื้อรา โดยการโรยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง                      แล้วนำมาซักล้าง
– ทำเป็นน้ำยาซักผ้าขาว โดยใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งถ้วยใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าพร้อมน้ำยาซักผ้าก็จะช่วย                        ทำให้ผ้ามีสีขาวและสีสดขึ้นได้ หรือจะใช้ใส่ในน้ำสุดท้ายก็จะทำให้ผ้ามีกลิ่นสะอาดยิ่งขึ้น
– ใช้ล้างแปรง หวี และกระจก โดยแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดา จะช่วยให้คราบด่าง ๆ หลุดออกง่ายดาย
– ทำความสะอาดที่ดัดฟัน โดยผสมกับน้ำอุ่นแล้วนำที่ดัดฟันมาแช่ทิ้งไว้ แล้วค่อยเอาแปรงขจัดคราบออก
– ปรับสภาพของสระว่ายน้ำหรือตู้ปลาให้เป็นกลาง

          เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ช่วยงานคุณแม่บ้านได้มากมายขนาดนี้ จะไม่มีไว้เป็นผู้ช่วยงานแม่บ้านได้อย่างไร